วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

AI613 Class7 lecture summary

Mobile Commerce (M-Commerce)

เป็นเทรนใหม่ในการทำธุรกิจ E-commerce ทำให้ผู้ใช้สามารถทำการซื้อขายสินค้าผ่านมือถือพวกสมาทโฟนได้ ซึ่งมือถือพวกสมาทโฟนนั้นมีการพัฒนามาอย่างยาวนานและถูกผลิตออกมาใช้ครั้งแรกในปี 1983

มูลค่าเพิ่มที่ทำให้มีการพัฒนา M-Commerce
  • สะดวก
  • สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
  • สามารถใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตได้
  • ตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน


Drivers of Mobile Computing & M-Commerce

  • ทุกคนมีการใช้มือถือ และมีแนวโน้มที่จะมีการใช้มือถือแบบสมาทโฟนมากยิ่งขึ้น
  • ไม่จำเป็นต้องมีการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อต่อเข้ากับระบบอินเตอร์เน็ต
  • ราคาของมือถือที่ลดลง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
  • มีการเพิ่มขึ้นของความเร็วในการต่้อสัญญาณเข้ากับอินเตอร์เน็ต จาก EDGE เป็น 3G
  • มีการพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ทำให้ต่ออินเตอร์เน็ตผ่านการใช้ wiless lan ได้
  • มีการให้บริการของผู้ให้บริการทางด้านเครือข่าย เช่น 3G 4G Wifi มากยิ่งขึ้น


ตัวอย่าง M-Commerce
  • Mobile Shopping
  • Mobile Banking เช่น กสิกรไทยมีบริการ เช็ค โอน เตือน จ่าย ธุรกรรมต่างๆ
  • Information based Service
  • Lacation Based Service เช่น Foursquare
  • Mobile Auction
  • Mobile Access to Corporate Intranet เช่น การใช้ BB
  • Mobile Travel Information and booking
  • Mobile Marketing and Advertising
Mobile Computing Infrastucture
  • WAP ต้องมีการเซ็ตให้ตรงกับสแตนด์ดาร์ดที่เรียกว่า Protocol ขึ้นมาเพื่อให้ฮาร์ดแวร์ต่างๆสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ
  • Markup languages เช่น XHTML เป็นภาษาสำหรับพวก tablet
  • Mobile development คือพวก .NET compact, Java ME
  • Mobile Emulators คือ ซอฟแวร์ที่ทำให้สามารถใช้ซอฟแวร์อีกตัวนึงได้
  • Microbrowsers เช่น Android, Safari
  • HTML5 เป็นภาษามาตรฐานที่กำลังมีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นเหมือนพวก Java หรือ Flash ซึ่งมีข้อเสียคือต้องมีการอัพเดทตลอดเวลา ดังนั้นหากพัฒนาภาษานี้ได้ ก็จะไม่ต้องพึ่งพาการอัพเดทหรือลง plug-in ให้เข้าใจภาษาพวก Java หรือ Flash ได้
Mobile Computing Basic Terminology
  • Bluetooth เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในระยะใกล้
  • EMS (Enhanced messaging service) เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อความที่มี ภาพ หรือเสียงเล็กน้อย นอกเหนือจาก text
  • GPS (Global positioning system)เป็นเทคโนโลยีการระบุตำแหน่งโดยการใช้ดาวเทียม
  • MMS (Multimedia messaging service)เป็นเทคโนโลยีข้อความที่สามารถส่งข้อความภาพพร้อมเสียง media ต่างๆ
  • PDA (Personal digital assistant) เป็นอุปกรณ์ที่เป็นมือถือที่เหมือนคอมพิวเตอร์พกพา
  • SMS (Short messaging service) เป็นเทคโนโลยีในการส่งข้อความตัวอักษรผ่านมือถือ อาจเทียบได้ว่าเป็น e-mail of m-commerce
  • Smart phones เป็นมือถือรุ่นใหม่ที่มีความสามารถต่อเข้ากับโลกอินเตอร์เน็ตได้
  • WiMax เป็นระบบส่งสัญญาณ wifi ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมือง โดยมีการตั้งเสาสัญญาณใหญ่เพียงเสาเดียว
3G ในเมืองไทย ที่มีการพูดถึงว่าแอร์การ์ด 3G นั้น หมายถึง แอร์การ์ดนั้นสามารถรองรับระบบ 3G ได้ แต่ยังไม่สามารถรับส่งข้อมูลในระดับความเร็ว 3G มีเพียงของ iMobile 3GX เท่านั้นที่มีสามารถรับส่งข้อมูลผ่านสัญญาณระบบ 3G ได้จริง

Android มีที่มาจาก Google พัฒนา OS ให้เหมือน Microsoft แต่ให้ใช้ได้ในมือถือ แล้วขายให้กับค่ายมือถือต่างๆเอง
iPhone พัฒนา OS ให้ใช้งานง่าย โดยพัฒนาให้กับมือถือของตัวเอง
BB พัฒนา OS ให้สามารถใช้งานในธุรกิจได้ง่าย ทำให้ใช้ในวงธุรกิจค่อนข้างมาก ยกเว้นเมืองไทยที่ไว้ใช้แชทบีบี

M-Commerce Business Models
  • Usage fee model (subscription based/usage based)
  • Shopping Business Models
  • Marketing business Models
  • Improved Efficiency Models
  • Advertising Business Models (Flat fees/Traffic-based fees) Revenue-Sharing Business Models
Mobile Banking คือเราสามารถทำธุรกรรมธนาคารผ่านมือถือ
Apple มี iTunes เพื่อจัดการไฟล์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งทำให้ช่วยแก้ปัญหาทางด้านรายได้ที่ลดลงของค่ายเพลงที่เกิดจากผู้ฟังใช้การโหลดฟรีแบบผิดลิขสิทธิ์ ทำให้ค่ายเพลงต่างๆต้องเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายมาผ่านการขายโดยการโหลด ซึ่ง iTunes เป็นช่องทางหนึ่งท่ประสพความสำเร็จ เพราะ iTunes มองว่ายังมีคนที่เต็มใจจะจ่ายซื้อเพลงหากราคาเหมาะสม ซึ่งทำให้ค่ายเพลงต่างๆภามยหลังต้องยอมมาขายเพลงผ่านช่องทางนี้ เช่นค่าย Sony

iBook เป็นหนึ่งในช่องทางรายได้ของ Apple เพื่อเซฟอุตสาหกรรมหนังสือ จึงมีการสร้าง App Store ที่ขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และพัฒนา iBook ขึ้นมาเพื่อใช้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้

Mobile Applications in Sports เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้กับดีไซน์โปรดักส์ต่างๆ ทำให้สามารถเพิ่มราคาได้

Location-Based Services and Commerce
เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถรู้ได้ว่า ผู้ใช้ไปอยู่ที่ไหน แล้วส่งข้อความบอกว่าตอนนี้ที่นั่นกำลังจัดงานอะไร มีโปรโมชั่นอะไร

Global Positioning Systems (GPS) เป็นระบบที่ทำให้สามารถรู้ที่อยู่ปัจจุบันของตัวเรา และสามารถบอกทิศทางและบอกทางที่จะไปยังจุดหมายที่เราต้องการได้

Foursquare เป็นแอพพลิเคชั่นที่เราต้องไปโหลด แล้วกดล็อกอินเข้าใช้ เพื่อระบุที่ที่เราไป check-in ซึ่งหากเราเข้า check-in ในพื้นที่นั้นหรือร้านนั้นบ่อยๆ เราก็จะได้ Offer โปรโมชั่นพิเศษสำหรับร้านนั้นๆด้วย

Best Buy Shop Kicks
เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะส่งคูปองโปรโมชั่น แล้วสามารถใช้มือถือไปแสกนเพื่อรับส่วนลดได้เลย

iAd เป็นการพัฒนาสื่อทางโฆษณารูปแบบใหม่ที่ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยผู้รับสื่อสามารถมีส่วนร่วมในการดูโฆษณา ดูข้อมูล ทดลองดูฟังก์ชั่นของสินค้าได้ผ่านโฆษณาในรูปของแอพพลิเคชั่นทีคล้ายๆเกมส์แฟลช

Augmented Reality เป็นแอพพลิเคชั่นที่นำข้อมูลจากภาพจริงมาแปลงเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการใช้ เช่นแปลงรูปที่มีภาษาสเปน เป็นรูปนั่นๆที่อยู่ในรูปภาษาอังกฤษ หรือเช่นแสกนภาพบ้าน แล้วโปรแกรมจะแสดงผลว่าราคาค่าเช่า ราคาซื้อขายอยู่ที่เท่าไหร่ ต้องติดต่อใคร เป็นต้น

Technical and other limitations of mobile computing
  • Insufficient bandwidth ช่องสัญญาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ
  • Security standards
  • Power Consumption
  • Transmission Interferences
  • GPS Accuracy
  • Potential Health Hazards
  • Human Interface with Device
  • Small Screens
  • Reduced memory
  • Limited Bandwidth
  • Restricted input capabilities
  • Cost – it’s readily available; why pay for it?
  • Trust ความน่าเชื่อถือของการใช้เทคโนโลยี หากดูไม่น่าเชื่อถือคนก็ไม่อยากใช้ 
Presentation

  • Mobile robot เป็น เครื่องจักรกลชนิดหนึ่งที่มีรูปร่าง ลักษณะ ตามวัตถุประสงค์ที่มันต้องทำ ถูกสร้างมาเพื่อทำงานแทนคน โดยเฉพาะงานที่ยากลำบาก เช่น หุ่นยนต์ในงานอวกาศ หุ่นยนต์ในการแพทย์ ประเภทของหุ่นยนต์แบ่งได้ทั้งตามลักษณะการเคลื่อนที่ได้หรือไม่ได้ และรูปลักษณ์ภายนอก
  • Virtual world ถูกนำมาใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ แต่ส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้กับเกมส์ที่มีตัวละคร รูปแบบการเล่นคล้ายชีวิตจริง ตัวอย่างการนำมาใช้เช่นVirtual tour ที่ให้คนหรือผู้ใช้เสมือนได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่จริงๆ และสามารถเลือกสถานที่ที่ต้องการเข้าชมได้ตามต้องการ
  • E-book Reader เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถอ่าน E-book ได้และสามารถเก็บ E-book ในรูปแบบไฟล์ต่างๆ เช่น .pdf, .doc, .jpg โดยมีระบบการแสดงผล 2 แบบ ได้แก่
    • LCD เหมือนจอโน๊ตบุคทั่วไปทำให้หน้าจอแสดงสีสดใสในรูปแบบที่สวยงาม แต่ทำให้สายตาล้าได้ง่าย เนื่องจากการแสดงผลมีการกระพริบอยู่ตลอดเวลา
    • E Ink แสดงผลคล้ายอ่านจากกระดาษทั่วไป แต่มีข้อเสียในการที่ต้องอาศัยแสง ถึงจะมองเห็นอักษรได้

    วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    AI613 Class6 lecture summary

    ตัวอย่างคลาสสิกที่ของ E-Business ที่เป็น E-commerce เช่น
    - Dell ให้ลูกค้าซื้อสินค้า โดยระบุ spec เองได้ผ่านทาง Internet ทำให้ตั้งราคาสูงได้ อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อคู่แข่งเยอะ ทำให้ Dell ต้องขายให้ได้จำนวนมากเช่นเดียวกับคู่แข่งอื่นๆ โดยมี Customer Service อยู่ที่ India
    - E-Bay เป็นเว็บไซต์ที่ให้คนเข้ามาประมูลขายของ
    - Amazon เป็นเว็บไซต์ที่ขายหนังสือผ่านช่องทาง internet
    - Click & Mortar มีการขายผ่านช่องทางทั้ง online and offline ในขณะที่ Brick& Mortar มีอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

    รูปแบบของ E-Business แบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้
    1. Business-to-Business (B2B)
    2. Business-to-Consumer (B2C)
    3. Consumer-to-Consumer (C2C)

    E-commerce Model
    - Affiliate marketing หาคู่ค้า โดยมี code affiliate ประจำตัวต่อคู่ค้าแต่ละคน เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านการเชื่อมโยงมาจากเว็ปไซต์ของคู่ค้า คู่ค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการขาย
    - Batering เว็ป คอนเซ็ปคือการแลกเปลี่ยน เช่น www.craigslist.com คนใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันฟรี เช่น แลกของ ซื้อของ, Couchsurfing.com คล้าย facebook ของนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวที่ที่มีสมาชิกอยู่ก็ไปนอนบ้านเค้าก็ได้ หรือPriceline.com ใช้เวลาซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยให้ลูกค้าแจ้งราคาที่ต้องการเข้าไป แล้ว Priceline ทำหน้าที่ Matching
    - Online Advertisers, Marketers & Students เช่น facebook
    - Company-sponsored Socially Oriented Sites เช่น eblogger
    - API คือ Application Programming Interface เช่น iphone มี app เยอะ พวกนักพัฒนาจะต้องมี code API ของ apple ซึ่งเป็น Code โดยเฉพาะ เพื่อเอาไปสร้าง app เพื่อมาใช้กับ iphone ของค่าย apple ได้, Paypal ดีกว่าการตัดบัตรเครดิตปกติตรงที่มีความปลอดภัย และสามารถปริ้นใบเสร็จจาก Paypal แล้วเอาไปจ่ายเงินสดที่ธนาคารได้ นอกจากนี้ยังมี youtube และ google map

    ประโยชน์ของ E-Commerce

    - สามารถเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    - ตัดปัญหาเรื่องการต่อรองราคาสินค้า
    - ลดค่าใช้จ่ายในด้านการติดต่อ (Transaction Cost)
    - เพิ่มโอกาสในการขายและการเปิดตลาดใหม่ ของ SMEs
    - การประชาสัมพันธ์ทำได้ง่ายขึ้น
    - ติดต่อลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น
    - ขยายฐานลูกค้าได้ทั่วโลก

    ข้อจำกัดของ E-Commerce
    - Standard อาจจะไม่เหมือนกัน เนื่องจาก browser ที่ support ไม่เหมือนกัน
    - ไม่ปลอดภัยจาก hacker ที่ขโมยข้อมูลระหว่างทาง
    - กฎหมายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

    Social commerce/ Social shopping

    เป็นแนวคิดที่ว่า การตัดสินใจของคนเรา มักจะเชื่อเพื่อนหรือคนรู้จักมากกว่าการโฆษณา ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่ว่าถ้ามีรูปเพื่อนถ่ายกับสินค้านั้นๆ แล้วก็สามารถ link ไปดูข้อมูลสินค้า แล้วซื้อสินค้าได้เลย ซึ่งในอนาคต พวก Social Network เช่น facebook อาจจะมี และอาจกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ Google หาก Facebook สามารถสร้าง Search engine ของตนเองขึ้นมาได้ Search Engine ของ facebook จะสามารถค้นหาความคิดเห็นที่มีต่อสินค้านั้นๆได้มากกว่า Google)

    Blogging and Wiki เกี่ยวข้องกับ E-commerce
     

    - E-Auction ประมูล เช่น Ubid , Ebay เป็นต้น
    - E-Classifieds ซื้อได้เลย ไม่ต้อง bid เช่น Half.com
    - Bartering and negotiation เช่น Swap.com
    - B2B auctions
    - Electronic Malls เช่น MSN Shopping, Cash back stores, Choice mall สามารถฝากขายสินค้าได้ ทำให้เหมือนผู้บริโภคไปเดินห้างของจริง
    - Taradb2b.com
    - Electronic Storefronts มีทั้งขายที่ห้างและขาย online ข้อดีก็คือได้หลายช่องทาง แต่ก็ต้องมี manager หลายคนคอยดูแลเสมอ
    - Customer Service online เช่น AIS, DTAC, True
    - Online Job market เช่น Dice JobCentral Monster เป็นต้น
    - Travel Services เช่น จองตั๋วเครื่องบิน รถเช่า โรงแรม เช่น HotelThailand.com

    Ethical and legal Issue
    สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ ความปลอดภัยของข้อมูล
    - ต้องพิจารณารูปกุญแจที่ปรากฏในเว็บ browser
    - ดู review ในเว็บว่าเค้าว่ายังไงกันดูจาก Consumerlist.com


    Presentation

    Cloud computing คือวิธีการประมวลผลที่มีจุดเด่นในการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยเมื่อผู้ใช้ระบุความต้องการไปยังระบบ ระบบจะทำการจัดสรรทรัพยากรให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ สามารถขยายหรือปรับเปลี่ยนได้ตาม Service Provider มีลักษณะที่สำคัญ 5 ประการ
    1.On demand
    2.Board Network Access
    3.Resource Pooling
    4.Rapid Elasticity
    5.Measured Service

    ประโยชน์ของ Cloud computing มีอยู่หลายประการ ได้แก่
     
    - Cost saving เนื่องจากการให้บริการผ่าน Cloud Computing เป็นระบบการให้บริการแบบ Share ทรัพยากรทั้งส่วนจัดเก็บข้อมูล Application และการประมวลผลบนInternet จึงเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale)
    - Scalability สามารถเลือกใช้บริการเฉพาะอย่างและเลือกเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วนให้ตรงกับความต้องการเฉพาะด้านหรือสอดคล้องกับงบประมาณของตนได้
    - Access to top-end IT capabilities ทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรด้าน IT ที่ดีได้ โดยไม่ต้องมีเงินลงทุนจำนวนมาก
    - Focusing on core competencies ทำให้องค์กรสามารถFocusจุดแข็งขององค์กรได้ โดยไม่ต้องแบ่งมาลงทุนด้าน IT
    - Efficient asset utilization ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากระบบมีการ share ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
     

    Health Informatics คือ การนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร ใช้พัฒนาข้อมูลเกี่ยวกับสาธารณสุข และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
    1.ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
    2. ด้านสุขภาพ ตั้งแต่เกิดจนตาย
    3.ทรัพยากรบุคลของคนที่ทำงานด้านสาธารณสุข
    4.กิจกรรมสาธารณสุข
    5.บริหารจัดการ
    หรือสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทตามภารกิจได้แก่

    1.สาธารณสุขเพื่อการบริหาร
    2.สาธารณสุขเพื่อการบริการ
    3.สาธารณสุขเพื่อการวิชาการ


    Web 2.0 คือ Website ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีลักษณะสำคัญ 7 ประการ คือ

    1. Network as platform สามารถใช้งานผ่าน Web Browser ได้ โดยไม่ต้องโหลดเข้ามาในเครื่อง
    2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบน "website" นั้น สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น
    3. ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ใช่แค่อ่านได้อย่างเดียว
    4. มี User interface ที่ดีขึ้น
    5. สามารถโต้ตอบกันได้
    6. มีความรวดเร็วและง่ายในการส่งข้อมูลมากขึ้น
    7. มีการเอา Function ใช้งานจากหลายเว็บรวมเข้าด้วยกัน

    เปรียบเทียบ Web 1.0 กับ Web 2.0

    Web 1.0 จะเป็นการสื่อสารทางเดียว คือจากเจ้าของเว็ปไซต์ซึ่งเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใส่ข้อมูลลงในเว็บนั้นได้ แต่ Web 2.0 ทั้งเจ้าของและผู้ใช้สามารถโต้ตอบกันได้ โดยเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เว็บทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น AJAX ทำให้เว็ปทำงานเร็วขึ้น, SaaS(Software as service) เป็นซอฟแวร์บนเว็บที่ให้บริการโดยไม่ต้องซื้อ, RSS เป็นการอัพเดต content,ข้อมูลใหม่ๆ และตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0 ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก YouTube, MySpace, Facebook, Wikipedia เป็นต้น

    วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    AI613 Class5 lecture summary

    ตัวอย่าง Case California state automobile association
    ปัญหา – IT infrastructure เริ่มไม่มีประสิทธิภาพไม่สามารถเชื่อมต่อกับคู่ค้าได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนระบบ server โดยใช้ Web Farms แทน ทำให้รักษาความปลอดภัยของข้อมูล ส่งของได้เร็วขึ้น ลดต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา
     
    Justifying investment in IT and EC (E-commerce) at California state automobile association
    1. Technology and Economic Trends and the Productivity Paradox
     
    Moore’s Law  
         คาดว่า power of computer chip มีคุณภาพดีขึ้นทวีคูณ ในทุกๆเดือนในขณะที่ต้นทุนยังคงที่ ทำให้มีของดีในราคาที่ถูกมากขึ้น และเมื่อถึงจุดอิ่มตัวของเทคโนโลยีนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่น เช่น Quantum Computing  
    Productivity Paradox 
         การลงทุนใน IT อาจจะไม่ได้เกิดผลดีเสมอไป และมักวัดผลที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งในบางครั้งการลงทุนใน IT อาจทำให้ Productivity แย่ลงได้ เพราะการลงทุนใน IT นั้นอาจต้องรอเห็นผลในระยะยาว ซึ่งทำให้สูญเสียโอกาสของเงินที่นำไปลงทุนใน IT นั้นไปด้วย อาจจำแนกเป็น 2 ด้าน ได้แก่
    First impact ลงทุน IT แล้วได้รับผลโดยตรง เช่น ได้กำไร
    Second impact ลงทุน IT แล้วได้รับผลในทางอ้อม เช่น ภาพลักษณ์ดีขึ้น
         2. Evaluating IT Investment 
     
         Why Justify IT Investments
          เนื่องมาจากการลงทุนใน IT ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการประเมินสิ่งต่างๆก่อนการตัดสินใจที่จะนำมาใช้ โดยอาจใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือ Cost & Benefit Analysis โดยอาจมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจ เช่น ทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เพื่ออยู่รอดในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่อาจไม่สามารถหรือไม่จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์ตัดสินใจในการลงทุนใน IT เนื่องมาจาก 
    1.อาจใช้เงินทุนน้อยมาก
    2.จัดว่าเป็น Infrastructure
    3.ผู้บริหารเป็นคนสั่งการ
    4.ข้อมูลไม่เพียงพอ

         Difficulties in Measuring 
         Productivity & Performance Gains
          ไม่รู้จะวัดประโยชน์จากโครงการลงทุนอย่างไร ตัววัดที่เหมาะสมหาได้ยาก ไม่สามารถวัดผลจากการดำเนินงานได้ หรือผลที่ได้จากการลงทุนเห็นผลได้ช้า ทำให้วัดได้ยาก
         Intangible Benefits
          ยากที่จะวัดเป็นหน่วยเงิน เช่นการวัดความพึงพอใจของลูกค้า ทำให้บางครั้งอาจลืมสนใจนำประเด็นนี้มาชั่งน้ำหนักใน Cost & Benefit Analysis ด้วย

         Costing IT Investment
    มีอยู่ 2 ส่วน ได้แก่
    Fixed costs เช่น Hardware & Software
    Transaction costs ต้นทุนที่เกิดระหว่างการดำเนินงาน ได้แก่
    • Search cost
    • Information cost
    • Negotiation cost
    • Decision cost
    • Monitoring cost
    Revenue Models generated by IT&Web
    Sales จาก E-commerce
    Transaction fees เช่น EBAY , บริษัทรับจองตั๋วต่างๆ
    Subscription fees จากการขาย service เพิ่มเติม เช่น เว็บให้ดาวน์โหลดเร็วขึ้น
    Advertising fees เช่น GOOGLE
    Affiliate fees เช่น AGODA เอาแบนเนอร์มาแปะ แล้วพอมีคนเข้าไปซื้อโดยผ่านเรา เราก็จะได้ Commission

    Cost & Benefit Analysis
    จะตัดสินใจลงทุนก็ต่อเมื่อมี Benefit ที่ได้มากกว่า Cost ที่เสียไป มี 2 steps
    1.Identifying & estimating all cost and benefits
    2.Expressing these costs and benefits in common units

    Cost ประกอบด้วย
    Development cost,Setup cost,hardware and Operational

    Benefits ประกอบด้วย
    Direct benefits, Assessable indirect benefits (Second order impact) and Intangible benefits(ต้องพยายามตีเป็นหน่วยเงินให้ได้)

    Cash Flow Forecasting   
    ประเมินตัวเงินที่คาดว่าจะได้ส่วนเพิ่มจากการลงทุน การคาดการณ์ future cash flows โดยปกติจะ ignore the effects of inflation ซึ่งมีการวิเคราะห์ Cost Benefit ด้วยเทคนิคต่างๆหลายวิธีเช่น
    1. Net profit ง่าย สนใจแค่กำไรในตอนทาย ข้อเสียคือไม่คำนึงถึงผลตอบแทนแต่ละปีและไม่คำนึงถึงค่าเงินตามเวลา
    2. Payback Period สนใจแค่ระยะเวลา ไม่สนใจเรื่องจำนวนเงิน
    3. Return on investment (ROI) ไม่สนใจมูลค่าเงินตามเวลา
    4. Net present value(NPV) สะท้อนมูลค่าเงินตามเวลา แต่ยากที่จะเลือก discount rate เท่าไร 
    5. Interest rate of return (IRR)  มองหาจุดที่ NPVเท่ากับ 0 วัดProfitability ได้ดีกว่า NPV เพราะ NPV ไม่ได้เทียบเป็น percentage   สามารถใช้ excel คำนวณได้
    อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมและควรใช้ประกอบกัน

         3. Advances Methods for Justifying IT Investment and Using IT Metrics
     
    Balanced scorecard method
    มองผลจากการดำเนินงานหลายด้าน นอกจากการเงิน โดยมอง 4 มุมมอง ได้แก่
    - Financial เพิ่มกำไร รายได้ ลดต้นทุน
    - Customer ความพึงพอใจ ฐานลูกค้า
    - Internal Process เพิ่ม Productivity คุณภาพ ลดเวลาในการทำงาน
    - Learning and Growth ทักษะของพนักงาน อัตราการลาออก Turnover

         4. Economic Aspects of IT and Web-Based System
    E-commerce ช่วยให้กิจการมียอดขายมากขึ้น ทำให้การผลิตเกิด Economies of scale และมีต้นทุนลดลง อย่างไรก็ตาม E-commerce มีข้อเสียคือ อาจเป็นการดึงดูดคู่แข่งเข้าสู่การแข่งขันในด้านนี้มาก
    E-Procurement Metrics วัดว่าเอา IT มาใช้แล้วดีหรือไม่ดี ทำให้ purchase order processing time ลดลง เช่น เลือก suppliers, ส่ง order, ออก P.O., ส่งสินค้าได้ตรงเวลา ,ลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้าลดลง
    CRM อาจดูจากยอดขายว่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ บริการได้รวดเร็วขึ้นหรือไม่
    E-commerce เป็น web-based systems แต่การลงทุนควรเป็นเพราะว่าเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร ไม่ใช่มีเว็บเพื่อเป็นไปตาม trend สมัยที่ .com boom 
     
         5. Managerial Issues
    - Constant growth & change เตรียมพร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแข่งขันที่ต้องขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี
    - Shift from tangible to intangible benefits ให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพด้วย
    - Not a sure thing ต้องมีการวัดอย่างสม่ำเสมอว่า IT ที่ใช้อยู่นั้นยังทำงานได้เหมาะสมกับองค์กรหรือไม่ มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่เพิ่ม Productivity ได้ดีกว่าหรือไม่ ทำให้ที่ใช้อยู่นั้นไม่เหมาะสมกับองค์กรแล้ว
    - Chargeback มองหาวิธีในการดึงดูดให้ผู้ใช้เปลี่ยนพฤติกรรม
    - Risk พิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น รและหาวิธีจัดการกับความเสี่ยงนั้น
    - How to measure the value of IT investment? จะใช้วิธีไหนมาวัดให้เหมาะสมมากที่สุด
    - Who should conduct a justification? ใครควรเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือก IT แบบไหน แต่เดิมจะเป็นฝ่ายการเงิน แต่ปัจจุบันจะเป็น Steering Committee และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกที่ศึกษาข้อมูลของผู้ใช้ทำให้รู้ปัญหาและความต้องการ


    นาย ศุลี พิเชฐสกุล
    5202113014

    วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    AI613 Class4 lecture summary

    Reason to outsource
    - Desire to focus on core competency
    - Cost reduction
    - Improve quality
    - Increase speed to market
    - Faster innovation

    Strategies for risk management in outsourcing
    - Understand project เข้าใจว่าลักษณะของ project นี้เป็นอย่างไร
    - Divide & conquer  แบ่งและควบคุมการทำ Project เนื่องมาจากบางครั้ง project มขนาดใหญ่ หรืออาจมีซับซ้อนมากจึงต้องมีการแบ่งและควบคุมที่ดี
    - Align incentives  เพิ่มแรงจูงใจในการทำงานโดยการให้รางวัลตามผลงานที่เกิดขึ้น 
    - Write short –period contracts  สัญญาควรเป็นระยะสั้น เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถประเมิน contract รายใหม่ๆได้อย่างสม่ำเสมอ
    - Control subcontracting  ควรมีการติดตามและควบคุมบริษัท outsource เพราะบางครั้ง บริษัท outsource อาจทำการ outsource อีกทีหนึ่ง
    - Do selective outsourcing ควรเลือก outsource เฉพาะส่วนที่ไม่ใช่เป็น Core Business ของเรา

    ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อทำ Offshore outsourcing

    - Business & Political environment in selected country
    - Quality of infrastructure
    - ETC.   ex. IT competency, human capital, legal environment, cultural differences 
     
    ลักษณะงานที่ไม่ควรทำการ Offshore outsourcing
      คืองานที่ยังไม่มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน หรือเป็น Core Business หรือสิ่งที่เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญต่อบริษัท ซึ่งไม่ควรให้บุคคลภายนอกรู้ร
     
    Acquisition Process of IT Application
                 1. Planning, and Identifying ระบุสารสนเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ โดยอาจมาจากผู้ใช้งาน หรือผู้บริหาร หรือบุคคลอื่นๆ เมื่อระบุได้แล้ว ก็ควรมีการทำแผนเพื่อประเมินหรือเปรียบเทียบงานในแต่ละขั้นได้ 
                 2. Creating an IT architecture 
                 3. Selecting an acquisition option เลือกวิธีการได้มาซึ่งระบบสารสนเทศ
                 3.1  Build in house  สร้างเอง ได้ความละเอียดตรงความต้องการ แต่อาจต้องใช้เงินทุนสูง
                 3.2  Vendor build custom made system ให้ภายนอกเข้ามาศึกษาและสร้างระบบให้
                 3.3  Buy existing application and install with/without modifications  ซื้อระบบที่มีอยู่แล้ว และนำมาใช้หรืออาจมีการปรับก่อนใช้ก็ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับบริษัทที่มีทีมงานที่มีประสบการณ์การทำงานทางด้าน IT อยู่แล้ว เนื่องจากต้องใช้ความรู้ในการเชื่อมโยง application นั้นๆให้เหมาะสมกับที่ต้องการได้
                3.4  Lease  เช่า เหมาะสำหรับบริษัทที่มีความจำกัดด้าน  IT   หรือการที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นๆ  มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เหมาะที่จะใช้ในบริษัทระยะยาว
    3.5  Enter partnership or alliance
    3.6  Use combination 
    4.  Testing, installing, integrating & deploying IT application ทดลองใช้ หากยังไม่ได้ ก็ให้กลับไปวางแผนและแก้ application ใหม่ หากใช้ได้ก็สามารถติดตั้งได้จริงเลย
    5.  Operations, maintenance & updating ทำงานผ่านระบบ โดยมีการบำรุงรักษาและมีการอัพเดทตัว application ให้ทันต่อความต้องการ หรือให้ใช้ได้ง่ายขึ้นอยู่เสมอ

    วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    CaseIII Dollar General Uses Integrated Software

    CaseIII Dollar General Uses Integrated Software

    1.Explain why the old, non-integrated functional system created problems for the company. Be specific.
     ปัญหา หลักที่เจอสำหรับระบบเก่าคือ การขาดความยืดหยุ่นของระบบการทำงาน ทำให้ไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงขององค์กรที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ทั้งทางด้านภาษีซึ่งกฎหมายในแต่ละรัฐไม่เหมือนกัน ทำให้การควบคุมดูแลเรื่องภาษียุ่งยาก การบริหารบุคคลที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการบันทึกและจัดเก็บเอกสารที่เป็นระบบเก่า อาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการจับคู่รายการกับเอกสาร ทำให้ระบบเก่าไม่สามารถรองรับการทำงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาได้
    2. The new system cost several million dollars. Why, in your opinion, was it necessary to install it?
    ในความคิดเห็น ผมคิดว่าบริษัทควรจะเปลี่ยนเป็นระบบใหม่ แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อระบบใหม่หลายล้านดอลลาร์ แต่เนื่องจากระบบใหม่สามารถรองรับความต้องการของบริษัท ทำให้ระบบงานต่างๆภายในองค์กรเชื่อมโยงกันได้ ทำให้เกิดความประหยัด นอกจากนี้ การใช้ Web-bases Application ยังทำให้สามารถเชื่อมต่อฟังก์ชันการทำงานได้ทั่ว ทุกมุมโลกโดยที่ไม่ต้องลง Software เพิ่มเติม อีกทั้งการอัพเดท Software ก็สามารถทำได้จากเครื่องหลักเพียงเครื่องเดียว ทำให้มีความสะดวกทั้งต่อองค์กรและผู้ใช้งาน และที่สำคัญคือระบบใหม่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งทำให้เหมาะกับการขยายตัวขององค์กรในอนาคตด้วย
    3. Lawson Software Smart Notification Software (lawson.com) is being considered by Dollar General. Find information about the software and write an opinion for adoption or rejection.
    Lawson Software Smart Notification Software นั้นเป็น Software ที่สร้างความสะดวกในการคัดกรองข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กร โดยจะส่งข้อมูลเฉพาะส่วนที่สำคัญ ง่ายต่อการเข้าใจ เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์หรือจัดทำรายงานต่างๆไปยังบุคคลที่มีสิทธิเข้า ถึงข้อมูลในเวลาที่ถูกต้อง ทำให้การทำงานต่างๆของพนักงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ Dollar General เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้ข้อมูลต่างๆภายในองค์กรมีมาก จึงเหมาะที่นำระบบนี้มาใช้ เพื่อทำให้ข้อมูลสารสนเทศต่างๆที่มีอยู่ในองค์กร สามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องและทันเวลา
    4. Another new product of Lawson is Services Automation. Would you recommend it to Dollar General? Why or why not?
    Service Automation เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรในองค์กร ซึ่งทำให้บริษัทสามารถใช้ช่วยในการวิเคราะห์โอกาส วิเคราะห์ธุรกิจ วิเคราะห์การลงทุน และช่วยวิเคราะห์ทรัพยากรที่ต้องใช้ในโครงการได้ ซึ่งผมคิดว่าหาก Dollar General ต้องการที่จะขยายต่อไปในอนาคต บริษัทก็เหมาะสมที่จะนำ Software ตัวนี้มาใช้

    นาย ศุลี พิเชฐสกุล
    5202113014


    วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    AI613 Class3 lecture summary

     Transaction Processing Systems (TPS)
              เป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญของทุกระบบ ถูกพัฒนาขึ้นในทศวรรษที่ 1950 ระบบนี้จะทำหน้าที่ในการรวบรวมเก็บและจัดระเบียบรายการต่างๆอย่างต่อเนื่องแบบ Real-time งทำให้ระบบนี้มีการใช้งานทุกวัน และต้องการที่เก็บเป็นฐานข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งฐานข้อมูลที่ได้ จะสามารถนำไปใช้สนับสนุนในการปฏิบัติงานต่างๆขององค์กร ทำให้ระบบ TPS oี้ต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับที่สูงเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้ภายในองค์กรด้วย

    คุณสมบัติที่สำคัญของ TPS
    1. Reliable ระบบต้องมีความน่าเชื่อถือ
    2. Standardization เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจและการใช้งาน
    3.Controlled Access เพื่อป้องกันผู้ไม่เหมาะสมเข้ามาใช้งานในระบบ

    ลักษณะเด่น
    1. มีการประมวลผลของข้อมูลจำนวนมาก
    2.แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่มาจากภายใน เพื่อตอบสนองผู้ใช้ภายในเป็นหลัก
    3.กระบวนการประมวลผลมีการทำเป็นประจำ
    4.มีความสามารถในการจัดเก็บปริมาณมาก
    5.ไม่มีความซับซ้อนในการคำนวณ
    6.การประมวลผลมีความน่าเชื่อถือสูง

    ลักษณะวงจรของ TPS เริ่มต้นที่
    1.Data Entry เป็นขั้นตอนแรกในการเก็บข้อมูลต่างๆ เช่นข้อมูลการขายจากระบบ POS หรือข้อมูลการถอนเงินจากเครื่อง ATM
    2.Database Updating แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
              แบบ Real-time ข้อมูลที่เก็บได้จะนำมาประมวลผลในทันที เช่นการซื้อของ Online
              แบบ Batch ข้อมูลที่ได้จะมีการเก็บรวบรวมไว้ก่อนแล้วจึงทำการประมวลผลตามเวลาที่กำหนด เช่น การทำ Payroll
    3.Document and Report Generation คือการสร้างรายงานและเอกสารที่เกี่ยวข้องออกมาเพื่อใช้งานภายในองค์กร เช่นใบสั่งซื้อสินค้า
    4.Inquiry Processing รับรองคำร้องจากผู้ใช้หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในลักษณะการสอบถามข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆ และค้นหาคำตอบให้กับผู้ใช้ตามต้องการ

    ตัวอย่างระบบ TPS
    - ระบบสารสนเทศทางการบัญชี
    - ระบบสารสนเทศทางการตลาด
    - ระบบสารสนเทศทางด้านทรัพยากรมนุษย์ เช่น การบันทึกชั่วโมงการทำงาน
    - Web Analytics Tools ใช้การเก็บข้อมูลจาก Internet ที่ผู้ใช้ได้มาใช้งาน เช่น จำนวนคนที่เข้าใช้ คำถามมีคนค้นหามากที่สุด
    - E-Procurement เป็นระบบการสั่งซื้อสินค้าที่ใช้เป็นประจำกับบริษัทคู่ค้า เช่น Tisco ทำ E-Procurement กับ OfficeMate ทำให้ประหยัดต้นทุนในการสั่งซื้อสินค้า และลดการ Overstock ได้

    รายงานหน้าห้อง
    RFID เป็นระบบชี้เฉพาะอัตโนมัติ Auto-ID แบบไร้สาย ทำหน้าที่ระบุลักษณะข้อมูลของสิ่งต่างๆโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุในการแสกนข้อมูล เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
    1.Tag จะทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลลักษณะสำคัญต่างๆเอาไว้และส่งสัญญาณวิทยุออกไป
    2.Reader ทำหน้าที่รับข้อมูล ถอดรหัส และติดต่อ Computer

    Speech Recognition เป็นระบบที่สามารถแปลงเสียงพูดให้เป็นข้อความ หรือแปลงเป็นคำสั่งต่างๆได้ สามารถช่วยในการบันทึกข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประหยัดเวลา หรืออำนวยความสะดวกกับผู้ที่ใช้งานในการพิมพ์ไม่คล่อง อย่างไรก็ตามก็มีข้อเสียคือ ระบบต้องปราศจากเสียงรบกวน อาจมีปัญหาสำหรับคำที่ออกเสียงหรือมีการเน้นเสียงคล้ายกัน และต้องมีการออกอักขระให้ถูกต้องชัดเจน โดยการนำไปใช้ขึ้นอยู่กับ Software ที่ติดตั้ง เช่น ใช้เสียงในการสั่งการ ใช้เสียงในการบันทึกเป็นตัวอักษรเป็นต้น

    Virtualization ระบบเครือข่ายเสมือน ที่ทำให้เครื่องแม่ใช้ระบบปฏิบัติการได้หลายระบบในเครื่องเดียวกัน โดยจะมีการสร้าง Layer ของการเชื่อมต่อกับ Hardware ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการให้ระบบสามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU Memory และอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลงได้ เป็นแนวทางเดียวกับ GREEN IT ที่ลดการใช้พลังงานจากการใช้ IT ด้วย

    วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    CaseII Building an E-Business at Fedex Corporation

    1. Identify the networks cited in this case
    • Virtual Private Network (VPN) เป็นระบบที่ทำให้สาขาต่างๆ ซัพพลายเออร์ ลูกค้า มีการเชื่อมต่อเข้ากับระบบหลัก โดยจะต้องทำการล็อกอินก่อนเข้าใช้ เมื่อเชื่อมต่อได้ระบบจะทำการกำหนด IP Address ของเครื่อง ทำให้เครื่องนั้นๆเสมือนเป็นเครือข่ายเดียวกันกับระบบหลัก ทำให้สามารถรักษาเครือข่ายภายในองค์กรไว้ได้ นอกจากนี้การรับส่งข้อมูล จะมีการเข้ารหัสแพคเกจของข้อมูลก่อนส่ง และเมื่อถึงปลายทางก็จะมีการถอดรหัสออกเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งจากประโยชน์เช่นนี้ ทำให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสาขา ลูกค้า และซัพพลายเออร์ในทุกมุมโลก สามารถเชื่อมต่อเพื่อเช็คข้อมูลที่ตนใช้ในระบบได้
    • Internet Connectivity เป็นตัวเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องให้เป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ เช่นตรวจเช็คว่าสินค้าที่ตนส่งอยู่ในขั้นตอนใดไปถึงที่ไหนแล้ว
    • Leased-Line Connectivity เป็นระบบที่ทำให้ FedEx มีการเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลา ทำให้ Fedex มีความคล่องตัวในการบริหารงานในองค์กร ทำให้ทุกคนในองค์กรสามารถใช้บริการอินเตอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารทั้งในและนอกองค์กรและเพิ่มความคล่องตัวในการใช้บริการอินเตอร์เน็ตมากขึ้น
    • Value-Added Network (VAN) เป็นเครือข่ายกึ่งสาธารณะที่ให้บริการมากกว่าการติดต่อสื่อสารกันโดยปกติ โดยจะมีการระบุอำนาจการเข้าถึงข้อมูลที่ใช้ได้ของแต่ละบุคคลทีอยู่ในเครือข่าย เช่น ระบบ Electronic Data Interchange (EDI) ที่ทำให้ Supplier สามารถดูข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของตนเองได้ เป็นต้น
     2. How does IT improve performance of FedEx?
              จากระบบ IT ที่ FedEx ได้ใช้ดังกล่าว ทำให้ FedEx มีเครือข่ายที่มีการแบ่งปันข้อมูลกันในแบบ Real-time ทำให้การบริหารงานเกิดประสิทธิภาพ ลดเวลาในการดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆ ทำให้มีความรวดเร็วในการบริการ ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะลดต้นทุนได้แล้ว ยังทำให้สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น จากการที่มีการใช้ระบบ VAN ซึ่งทำให้ FedEx มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากบริการส่งสินค้าให้ธุรกิจพวก E-Commerce ด้วย
    3. In what ways are personalization and customization provided?
             FedEx มี Software และ Hardware หลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น FedEx PowerShipMC, FedEx Ship Manger Server, FedEx ShipAPI, FedEx Net-Return หรือรวมเรียกว่า FedEx Direct Link ซึ่งออกแบบระบบมาให้ง่ายต่อผู้ใช้งาน ซึ่งทำให้ FedEx สามารถตอบสนองความต้องการ Personalization และ Customization ของลูกค้าได้
    4. What are benefits to customer?
              ช่วยให้ลูกค้าบริหารงานได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากการดำเนินการต่างๆสามารถทำงานภายในหน้าเว็บเลย นอกจากนี้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจยังลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานส่งสินค้า เนื่องจากใช้ระบบ EDI ในการรับส่งข้อมูลการสั่งซื้อของลูกค้าไปยัง FedEx เลย ทำให้เกิดความถูกต้องของข้อมูลและความรวดเร็วในการส่งสินค้า ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้ามีความพึงพอใจ ทำให้ลูกค้ามีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ลูกค้าสามารถติดตามว่าของที่ทำการส่งไปแล้วอยู่ในที่แห่งใดได้ ทำให้มีความพึงพอใจมากขึ้น

    วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    AI613 Class2 lecture summary

                    ใน Class นี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญและความหมายของคำว่า IT ทำให้รู้ว่า IT มีส่วนให้การทำงานต่างๆเป็นไปได้อย่างง่ายดายขึ้น และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น MARY KAY ใช้ระบบ IT ในการติดต่อกับลูกค้า และใช้สำหรับธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นๆที่ใช้ระบบ IT ในการสั่งซื้อสินค้า และเช็คสต๊อกสินค้าผ่านทาง smart phone ได้ ซึ่งอาจกล่าวได้เลยว่า ระบบ IT เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินธุรกิจ
    Information Systems : Concept & Definition
                    Data เป็นเพียงข้อมูล หรือข้อเท็จจริงที่เก็บรวบรวมมา ในความเข้าใจผมก็คือข้อมูลปฐมภูมิที่ยังไม่ผ่านการดัดแปลงใดๆ เมื่อนำ Data ที่เก็บรวบรวมมาได้มาประมวลผล เราก็จะได้ Information หรือสารสนเทศ ซึ่ง Data ขององค์กรนั้นจะมีอยู่เยอะมาก ทำให้เราไม่สามารถจะเก็บข้อมูลเหล่านั้นได้ทั้งหมด องค์กรจึงเลือกเก็บเฉพาะ Data ที่สำคัญๆที่จำเป็นในการประมวลเป็น Information เพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งการเก็บข้อมูลต่างๆเหล่านั้น องค์กรต้องอาศัยทั้ง Hardware Software และอาจต้องใช้ Human resources เพื่อไปเก็บข้อมูล และนำมาประมวลผลเป็นสารสนเทศ และเมื่อนำสารสนเทศไปใช้ในการตัดสินใจในองค์กร ก็จะทำให้องค์กรเกิดมี Knowledge หรือความรู้ในด้านนั้นๆต่อไป]

    Classification and Evolution of Information Systems
    1. Personal and Productivity Systems เป็นระบบที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานส่วนบุคคล
    2. Transaction Processing System ระบบที่ใช้ในการบันทึกรายการต่างๆภายในองค์กร เป็นระบบที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นระบบพื้นฐานที่สุดภายในองค์กรเพื่อเป็นตัวเก็บ Data ต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น พวกระบบบัญชี ระบบแคชเชียร์ 
    3. Functional and Management information system เป็นระบบที่ไว้ค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับผู้จัดการระดับกลางในการตัดสินใจ เพราะมีการเปรียบเทียบข้อมูลได้ ข้อมูลในระบบ MIS ได้มาจากการบันทึกข้อมูลภายหลัง Transaction processing system
    4. Enterprise Information Systems เป็นระบบที่สามารถ link ข้อมูลและสารสนเทศต่างๆไปยังหน่วยงานอื่นๆ ถือเป็นการเชื่อมหลายๆหน่วยงานเข้าด้วยกัน 
    5. Inter-organizational systems เป็นระบบที่ connect หลายๆหน่วยงานเข้าด้วยกัน เช่น connect กับสาขาอื่นๆ ในต่างประเทศ 
    6. Global Information Systems เป็นระบบที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อบริษัทต่างๆที่อยู่คนละประเทศกัน และรวมกันจนเป็น Global
    7. Very Large and Special Systems เป็นระบบที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับองค์กรต่างๆได้ทั่วโลก เช่นระบบที่ใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน
    ตัวอย่างระบบ IT
    Supply chain management system
    เป็นระบบที่บริหาร Supply chain ขององค์กร
    Knowledge management system
    ระบบที่เก็บความรู้ต่างๆขององค์กร เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้ในครั้งต่อๆไป เพราะความรู้ที่เกิดขึ้นหากไม่เก็บไว้ ความรู้นั้นก็จะอยู่กับคนคนเดียว เมื่อนำมาเก็บไว้ องค์การสามารถใช้ประโยชน์จากความรู้เหล่านั้นร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และสามารถเอาความรู้ไปต่อยอดได้อีกด้วย

    Presentation
    E-Paper เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Black Light ให้ความสว่างในการแสดงผล บันทึกข้อความและภาพได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า มีน้ำหนักเบา โค้งงอได้ ไม่ทำให้ปวดตาเหมือนจอคอมพิวเตอร์ เพราะหลอกภาพจะมีการกระพริบอยู่ตลอดเวลา
    Tablet PC คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก พกพาง่าย มีลักษณะต่างๆที่ทำให้สะดวกในการใช้งาน เช่น หน้าจอสัมผัสแต่ก็มีข้อเสียคือระบบประมวลผลที่ต่ำกว่า Personal Computer ธรรมดา ราคาค่อนข้างสูง และเกิดความเสียหายได้ง่าย
    Green IT คือแนวคิดใหม่ที่ต้องการลดพลังงานในการสร้างและทำลายสินค้าพวก IT ต่างๆ เช่นพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จึงมีการออกแบบวัสดุที่นำมาผลิตให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ รวมไปถึงขั้นตอนต่างๆให้ลดพลังงานที่ใช้น้อยลง เพื่อให้สิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบน้อยลง

    ID : 5202113014

    วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    Why Should You Learn About Information Technology?

              ชีวิตของเราในปัจจุบัน ล้วนมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องตั้งแต่ตื่นนอน ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้ในเวลาอาบน้ำ ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่าง รถยนต์ที่เป็นพาหนะในการเดินทาง โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร อินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงาน  และสิ่งต่างๆมากมาย ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีต่างๆมีแนวโน้มที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์ทุกๆคนในปัจจุบันเลยก็ว่าได้
              นอกจากนี้เทคโนโลยียังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบัญชี ฝ่ายการตลาด ฝ่ายการเงิน ฝ่ายผลิต ฝ่ายทรัพยาการบุคคลและฝ่ายสนับสนุนต่างๆ ทำให้เกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันในการวิเคราะห์ ทำให้มีการบริหารและการวางแผนงานของแผนกต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะประเมินผลประโยชน์จากการลงทุน(ROI)ในด้าน Information Technology และ Information System ได้ยาก เนื่องจากเป็นการลงทุนในระบบ จึงยากที่จะประเมินออกมาเป็นตัวเลขได้
              การที่บริษัทต่างๆให้ความสำคัญกับ IT และ IS นี่เองทำให้เกิดเป็นยุค Digital Economy คือ ระบบเศรษฐกิจที่คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมโยงคนทุกคนหรือทุกแผนกในอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน สามารถทำงานร่วมกันผ่านระบบ IT และ IS ทำให้กระบวนการต่างๆใช้เวลาสั้นลง และลดความผิดพลาดต่างๆที่เกิดจากคน เช่น การใช้ระบบ ฺBAR Code ในทุกกระบวนการการรักษาในโรงพยาบาล เพียงแค่ยิง BAR Code ระบบก็จะบอกข้อมูลประวัติของผู้ป่วยนั้นๆทันที หรือแม้กระทั่งการสั่งจ่ายยา เป็นต้น
             จะเห็นได้ว่า ระบบ IT และ IS สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าเทคโนโลยีก็มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทที่พัฒนาและขายเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องระวังอยู่เสมอ เนื่องจากหากสินค้าเทคโนโลยีตัวใหม่ๆ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากกว่า เทคโนโลยีที่รุ่นเก่ากว่า หากไม่มีการพัฒนา ก็ยากที่จะอยู่รอดได้ เช่น Sony พัฒนา Sony Walkman ขึ้นมา แต่ก็ต้องถูดทดแทนด้วยเครื่องเล่น MP3 และ IPOD ทำให้ Walkman ของ Sony มีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่การออก Play station 3 ที่มีเทคโนโลยีที่เกินความต้องการของตลาดเกินไป ทำให้ประสบความล้มเหลวในการออกสินค้า
              ดังนั้นการศึกษา Information Technology จึงช่วยให้เราเห็นถึงความสำคัญของ IT และรู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวเรา ชุมชนและองค์กร