Business Intelligence and Strategic Information System Planning
Business Intelligence (Cont'd)
Web mining
เป็นการ mining ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ซึ่งทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ต่างๆได้ ช่วยทำให้วิเคราะห์ความต้องการหรือได้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ ซึ่งเราสามารถติดตามรูปแบบการใช้งานเหมือนการแกะรอยเท้าซึ่งในที่นี้เราเรียกว่า “Clickstream”
- Web content mining : ดูจากระยะเวลาที่ผู้ใช้งานใช้
- Web structure mining : ดูจากว่าผู้ใช้งานเข้าผ่านทาง URL หรือทาง Link โดยการที่ลูกค้ามักเข้าเว็บผ่านลิงค์อื่นๆ อาจทำให้บริษัททราบว่าลูกค้าจำ URL ของบริษัทไม่ได้ หรือไม่เกิด Brand Recognition หรือตรวจนับจำนวนผู้ใช้เพื่อบอกได้ว่าโฆษณาหรือ banner ในเว็บอื่นได้ผลจริง
- Web usage mining : ดูข้อมูลการใช้งานของ visitor ซึ่งเกิดจากการเก็บข้อมูลจำนวนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บและทำ transaction ผ่านเว็บทำให้รู้พฤติกรรมการของลูกค้าได้
Strategic Infomation System Planning
IS/IT Planning คือการวางแผนขององค์กรในด้านโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยี (IT Infrastructure) และระบบโปรแกรม (Application Portfolio) ในทุกๆระดับขององค์กร โดยใช้ระบบสารสนเทศเพื่อทำให้วัตถุประสงค์หลักขององค์กรและความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือของบุคลากรจากทั่วทั้งองค์กร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรที่ตั้งไว้
Four-stage model of IS/IT planning
เป็นพื้นฐานในการพัฒนา portfolio of application โดยเป็นการทำให้สอดคล้องกันระหว่าง เป้าหมายของบริษัท กับ การสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่ง โดยประกอบไปด้วยขั้นตอนดังนี้ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่
1. Strategic Planning กำหนดกลยุทธ์ โดยการหาความสัมพันธ์ระหว่างแผนกลยุทธ์ขององค์กรกับ IT
- Set IS Mission
- Access Environment ประเมินสิ่งที่มีอยู่ว่าดีเพียงพอหรือควรจะไม่นำไปใช้ต่อในอนาคต
- Access Organizational Objectives Strategies ทบทวนแผนกลยุทธ์ขององค์กรว่าเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันเพียงใด ใครเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่นั้นๆ
- Set IS Policies, Objectives, Strategies พิจารณาว่า IS อยู่ในส่วนใดบ้างเพื่อพิจารณาความสำคัญของ IS ที่ควรจะมีต่อไป
2. Organizational Information Requirements Analysis กำหนดระบบสารสนเทศที่ต้องใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
- Access Organization’s Information Requirements วิเคราะห์ความต้องการในสารสนเทศขององค์กรในปัจจุบัน ในอนาคต อาจทำโดยการสังเกต สัมภาษณ์ และการ Review เป็นต้น
- Assemble Master Development Plan กำหนดระบบสารสนเทศทั้งหมดที่ต้องการ
3. Resource Allocation planning จัดสรรทรัพยากร
- ประเมินทรัพยากรที่ต้องใช้ในการสร้าง IS แล้วจะทราบถึงต้นทุนและกระแสเงินที่ต้องใช้ใน Infrastructure หรือ Application
4. Project PlanningMethodology to facilitate IT planning
- พิจารณาแผนงานในด้านความคุ้มค่าของการนำระบบสารสนเทศมาใช้งานประมาณการต้นทุนและกำหนดระยะเวลาของงาน
The Business Systems Planning (BSP)
พัฒนาโดย IBM ซึ่งใช้ทั้งวิธี top-down และ bottom-up ในการวางแผน IS โดยเริ่มจากกำหนด Business process และ Data classes แล้วจะทำให้ทราบว่าควรจะมี information architecture อย่างไร แล้วองค์กรควรจะมี databases แบบไหน จำได้หา Application มา รองรับ และนำไปสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กรได้ อย่างไรก็ตามข้อเสียของวิธีนี้คือใช้เวลามาก มีการสร้างข้อมูลจำนวนมากทำให้เสียต้นทุนในการจัดเก็บ และสนใจกับปัจจุบันมากกว่าอนาคต
Critical Success Factors (CSF)
เน้นเรื่องหลักๆ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จหรือการอยู่รอดขององค์กร ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการสัมภาษณ์ข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงในองค์กร โดยใช้ CSF ในการ
1. กำหนด Priority ของ IS
2. กำหนด database
3. กำหนด DSS
ข้อดีคือ ผลิตข้อมูลจำนวนน้อยกว่าในการวิเคราะห์ มีการคำนึงถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และให้ความสำคัญกับเรื่องที่ว่าองค์กรจะจัดการกับข้อมูลอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อมูลได้มาจากการสัมภาษณ์ ทำให้มีข้อเสียคืิอ ขั้นตอนและการวิเคราะห์จะอยู่ในรูปของ art form เกิดความสับสนได้บ่อยของผู้ให้สัมภาษณ์ระหว่าง CSF ของตนเองกับขององค์กร และไม่ได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
ศุลี พิเชฐสกุล
5202113014
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น